งานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญในชีวิตคู่ของคู่ บ่าวสาวต้องรู้ หลายๆ คน และแน่นอนว่าการเตรียมงานแต่งงานนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้เวลาและความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการวางแผน การจัดงาน และการตกแต่ง วันนี้มานิตาจะมาอธิบายถึงความแตกต่างของ Wedding Planner, Organizer และ Decoration ว่ามีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง แต่ละอย่างมีความสำคัญอย่างไร เพื่อให้ตัดสินใจง่ายขึ้น โดยเฉพาะว่าที่ บ่าวสาวต้องรู้ ที่ต้องใช้บริการสิ่งนี้ เรามาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
Wedding Planner
Wedding Planner คือคนที่วางแผนจัดงานแต่งงานให้กับคู่บ่าวสาว ตั้งแต่ต้นจนจบ เป็นคนกำหนดทิศทางและรูปแบบของงานแต่งงานว่าจะให้ออกมาในรูปไหน เป็นไปตามที่คู่บ่าวสาวกำหนดไว้หรือไม่ แล้ว Wedding planner ยังทำหน้าที่ในการประสานงานทุกส่วนต่างๆ เช่นจัดหาสถานที่จัดงานแต่ง อุปกรณ์ตกแต่ง งบประมาณ ช่างวิดีโอ ช่างแต่งหน้า-ทำผม ชุดแต่งงาน การ์ด ดนตรี ของชำร่วย เป็นต้น
รวมทั้งการประสานงานกับโรงแรมในเรื่องของอาหาร และเครื่องดื่มในวันงานให้เหมาะสมเพียงพอกับจำนวนแขกที่มาร่วมงาน และยังเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีแก่คู่บ่าวสาวอีกด้วย เหมือนเป็นเพื่อนรู้ใจ ที่จะช่วยดำเนินการทุกอย่างแทนคู่บ่าวสาว เพื่อให้งานเป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดปัญหาน้อยที่สุด เรียกได้ว่าซื้อเวลา ซื้อความอุ่นใจ ซื้อที่พึ่งพาในเรื่องนี้ ดูแลคู่บ่าวสาวในทุกเรื่อง และทุกช่วงเวลา ตั้งแต่วันแรก จนถึงช่วงเวลาส่งตัวคู่บ่าวสาวขึ้นห้องหลังจากจบพิธีการทั้งหมด
คำแนะนำว่าใครควรมี Wedding Planner?
1. งานแต่งงานขนาดใหญ่ : งานแต่งงานที่มีรายชื่อแขกจำนวนมาก บ่าวสาวอาจจะคอนโทรลด้วยตัวเองไม่ค่อยสะดวก เลยจะต้องมี Wedding Planer คอยดูแลและจัดการความสะดวกให้ เพื่อเป็นการรับรองว่าการจัดงานจะเป็นไปอย่างราบรื่น
2. บ่าวสาวที่ไม่ค่อยมีเวลา : บางคู่อาจไม่มีเวลาวางแผนจัดงานแต่งงาน การจ้าง Wedding Planer ก็ช่วยให้บ่าวสาวสามารถมอบหมายงานและคลายความเครียดในเรื่องการจัดงานแต่งได้ ถึงแม้จะไม่ว่างหรือไม่สะดวกไปดูสถานที่จัดงาน หรือ ของชำร่วยและอื่นๆ ก็ยังมี Planer คอยจัดการให้
Organizer
ในส่วนของ Organizer มองเผินๆ อาจจะดูคล้าย Wedding Planner แต่จริงๆแล้ว Organizer จะเป็นคนคอยรันคิวงานลำดับขั้นพิธีต่างๆ ภายในงาน เช่น พิธีตรงนี้เราต้องทำอะไรบ้าง ต้องพูดแบบไหน หรืออื่นๆ โดยจะเข้ามาช่วยดูแลงานก่อนวันงานจริง1-2 เดือนหลังจากจองสถานที่เรียบร้อย เพื่อให้งานวันสำคัญของคู่บ่าวสาวเป็นไปตามที่วางแผนไว้ เหมือนว่าช่วยให้บ่าวสาวสบายใจมากขึ้น ไว้วางใจได้ว่างานแต่งงานของตัวเองออกมาสมบูรณ์แบบ ทำให้คู่บ่าวสาวคลายความกังวลไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ หรือสำหรับคนที่อยากจัดงานแต่งงานด้วยตังเอง ออกแบบรายละเอียดทั้งหมดเอง มีเวลาหาข้อมูล บรีฟงานเองได้ และหางบประมาณการจัดงานเองได้ การติดต่อแค่ออแกไนเซอร์หรือทีมรันคิวงานก็เป็นตัวช่วยที่ดีเช่นกันนะคะ ช่วยให้งานแต่งของคุณดูเป็นทางการและสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นเลยล่ะค่ะ
Decoration
หลังจากที่ได้มี Wedding Planner และ Organizer เรียบร้อยแล้ว เข้าสู่ขั้นตอนการตกแต่งงานแต่งงาน หรือที่เรียกว่า Decoration นั้นเองค่ะ ซึ่งจะเน้นการตกแต่งงานแต่งงานให้สวยงาม ที่สะท้อนถึงสไตล์และความชอบของคู่บ่าวสาวได้เป็นอย่างดีเลย ไม่ว่าจะเป็นคิดธีมงานแต่งงาน โทนสีที่ใช้ หรือแม้กระทั่งของตกแต่งต่างๆ อาทิ คู่บ่าวสาวสายหวาน โรแมนติก ก็จะชอบจัดงานแต่งงงานในธีมดอกไม้ หวานละมุ่น หรือ บ่าวสาวสายมินิมอล ก็จะจัดธีมงานออกมาในสไตล์ที่ดูเรียบง่าย ไม่ต้องตกแต่งเยอะ เน้นองค์ประกอบที่สำคัญแทนค่ะ ทั้งนี้ก็อาจจะต้องวางแผนกันให้ดีนะคะ เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่เราอาจจะไม่คาดคิดด็ได้ค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับความแตกต่างของ Wedding Planner, Organizer หรือ Decoration ทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรคำนึงถึงให้ดี เพราะถ้าคุณต้องการให้งานแต่งงานของคุณเป็นวันที่ซึมซับไปด้วยความทรงจำที่สวยงามและลงตัว ตามสไตล์ของคุณเอง การวางแผนงานแต่งงาน การจัดงานแต่งงาน และการตกแต่งงานแต่งงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยแต่ละขั้นตอนก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ
สำหรับคู่บ่าวสาวที่กำลังมีแพลนจะแต่งงานแล้วไม่ค่อยมีเวลามากเพียงพอที่จะบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพราะการแต่งงานเป็นสิ่งที่ต้องวางแผนให้รัดกุม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน การจัดสรรเวลา รวมไปถึงการตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุด 3 อย่างนี้อาจจะสามารถแบ่งเบาภาระเหล่านี้ได้ ทำให้คู่บ่าวสาวมีเวลาไปโฟกัสกับเรื่องอื่นมากขึ้นค่ะ หากคู่บ่าวสาวท่านไหนกำลังมีแพลนจะแต่งงานและกำลังมองหาการ์ดแต่งงานและของชำร่วยสวย ๆ หรือกำลังหาแรงบรรดาลใจ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทีมงานของมานิตาได้เลยนะคะ เรามีทีมงานให้คำปรึกษาจัดเตรียมสร้างสรรค์งานแต่งให้ทุกคู่ค่ะ