เคยได้ยินคำว่า Bridezilla มั้ยคะ นั่นคือเจ้าสาวที่มาพร้อมกับความเครียดในช่วงการ เตรียมงานแต่ง เพราะด้วยคำว่าแต่งงานครั้งเดียว มานิตาจึงอยากจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด แต่อีกนัยหนึ่งมันก็เป็นสิ่งที่กดดันตัวเจ้าสาวที่กำลังเตรียมงานอยู่เช่นกัน เราเข้าใจในเรื่องนี้ดี เลยรวบรวมเอา ทริคดี ๆ ที่จะช่วยให้ว่าที่เจ้าสาวผ่อนคลายและ เตรียมงานแต่ง ได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น
1. Check List (ลิสต์งานแต่งงาน)
ใช้ Check List เพื่อวางแผนงานและติดตามงาน กำหนดเวลา และรายละเอียดที่สำคัญ การจัดระเบียบสามารถช่วยให้คุณรู้สึกควบคุมได้มากขึ้นและรู้สึกหนักใจน้อยลงตลอดกระบวนการวางแผน เพราะคุณสามารถนำหลาย ๆ เรื่องออกมาอยู่ใน Checklist แทนที่จะต้องเก็บเอาไว้ในหัวของเราเท่านั้น
Save รูป เพื่อนำไปใช้งานได้เลย ทั้ง Wedding Checklist และ Budget List
2. Manage your schedule (วางแผนล่วงหน้า)
หากต้องทำอะไรจวนตัว จะทำให้เกิดความ รีบเร่งและความเครียดได้ง่าย ดังนั้น เราควรวางแผนการเตรียมงานแต่เนิ่น ๆ และกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจนว่าช่วงเวลาไหนจะต้องทำอะไร เพื่อที่จะจัดสรรระหว่าง การเตรียมงานแต่ง การทำงาน รวมถึงชีวิตส่วนตัว เพื่อไม่ให้อย่างหนึ่งอย่างใดต้องมีผลกระทบ
3. Delegate Tasks (มอบหมายงาน)
อย่าพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง มอบหมายงานให้กับเพื่อนที่ไว้ใจได้ สมาชิกในครอบครัว การมอบหมายความรับผิดชอบให้กับผู้อื่นสามารถแบ่งเบาภาระของคุณและช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่ส่วนที่สำคัญที่สุดของวันแต่งงานของคุณได้
4. Ask your newly wed (สอบถามคนที่เคยแต่งงานแล้ว)
มันจะช่วยคุณประหยัดเวลาได้มากเลย จากการที่คุณต้องคอยหาข้อมูลด้วยตัวเอง เราเชื่อว่ารอบ ๆ ตัวคุณจะต้องมีเพื่อน หรือญาติ ๆ ที่เคยแต่งงานมาแล้ว ลองสอบถามคนเหล่านี้เกี่ยวกับ Supplier ที่ใช้ หรือแม้แต่ขั้นตอนการเตรียมการต่าง ๆ และแน่นอนว่าคนสนิทของคุณย่อมอยากให้คุณมีงานแต่งงานที่ยอดเยี่ยม เพราะฉะนั้นข้อมูลที่ได้รับมาย่อมมีประโยชน์กับคุณอย่างแน่นอน เลือกสอบถามคนรู้จักที่มีสไตล์คล้าย ๆ คุณจะทำให้คุณได้คำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
5. Select Professional (เลือกมืออาชีพมาร่วมงาน)
แน่นอนว่าเจ้าสาวทุกคนเป็นเจ้าสาวมือใหม่ด้วยกันทั้งนั้น มันจะช่วยคุณได้มากหากคุณเลือกมืออาชีพให้มาดูแลในส่วนต่าง ๆ ที่คุณต้องเตรียมการ เพราะเค้าเหล่านี้จะช่วยคุณยกภูเขาออกจากอก เพียงแค่บอกความต้องการของคุณให้ชัดเจน ที่เหลือเราก็ปล่อยให้มืออาชีพทำงาน แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นมืออาชีพจริง? เราอาจจะดูได้จากระยะเวลาที่เปิดให้บริการมา รีวิวใน Social Media ต่าง ๆ รวมถึงการนัดเจอหรือพูดคุยก่อนจะเริ่มงาน
6. Wedding planner can help (นักวางแผนงานแต่งงานสามารถช่วยคุณได้)
หากคุณพิจารณาดูแล้วว่าคุณน่าจะไม่มีเวลาที่จะจัดการเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง หรือคุณคิดว่าต้องการคนคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดงาน Wedding Planner อาจจะเป็นคำตอบของคุณ เพราะคุณจะเหมือนมีเลขาส่วนตัวคอยแนะนำ ให้คำปรึกษาและคอยบอกคุณว่าช่วงเวลาไหนคุณจะต้องทำอะไรบ้าง
7. Manage your expectation (บริหารจัดการความคาดหวัง)
งานแต่งงานของเรา เราย่อมอยากจะให้ออกมาดีที่สุด แต่หากเราคาดหวังมาก หรือกดดันตัวเองมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดความเครียดสะสมได้ เราอาจจะต้องแบ่งช่วงเวลามาผ่อนคลาย หรือพูดคุยกับว่าที่เจ้าบ่าว เพราะสุดท้ายแล้วเราอย่าลืมว่า เราเริ่มต้นที่จะจัดงานแต่งงานด้วยความรักและความสุข ดังนั้น แล้วเราก็อยากในกระบวนการเตรียมตัวเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุขด้วยเช่นกัน
เป็นอย่างไรบ้างคะ หวังว่าคำแนะนำในการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานเหล่านี้น่าจะเป็รประโยชน์ให้กับคู่บ่าวสาวได้นะคะ หรือบ่าวสาวรุ่นพี่มีเรื่องราวไหนบ้างที่อยากจะช่วยแนะนำหรือบอกต่อ ก็ลองบอกต่อกันมาได้นะคะ แต่ยังไงก็อย่าลืมว่า เป้าหมายเราไม่ใช่การมีความสุขแค่ในวันแต่งงานเท่านั้น แต่ระหว่างที่จะไปถึงก็ควรที่จะต้องมีความสุขด้วยเช่นกันนะคะ 🙂